ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2014

เจ้าสัว...สอนการเป็นนักบริหารชั้นเยี่ยม (ต่อ)

ระหว่างที่ผมขับรถกลับจากพบเจ้าสัว จิตผมคุ้นคิดเกี่ยวกับคำสอนของแกที่กล่าวก่อนแยกจากกันว่า การเป็นนักบริหารชั้นเยี่ยมได้นั้นจะต้องเริ่มต้นจาก เก่งงาน (Technical Skill) คือ ทำงานในสายงานของตนเองให้ได้อย่างน้อย 10 ปี เพราะเป็นช่วงระยะเวลาที่ความรู้จะปรับเปลี่ยนไปสู่ความเข้าใจ โดยกระบวนการเปลี่ยนความรู้เป็นความเข้าใจได้นั้นต้องอาศัยการปฏิบัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อเก่งงานแล้ว ก็ต้องฝึกฝนตนเองในเรื่องการสร้างทีมงาน คือ การเก่งคน (Human Skill) เพราะการทำงานใหญ่ได้นั้นต้องอาศัยทีมงาน โดยทีมงานต้องมีจิตวิญญาณรวมกัน (Team Spirit) มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีความสามัคคีกัน มีความเห็นอกเห็นใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยบุคคลที่จะสร้าง Team Spirit ได้นั้นต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้น เมื่อเก่งงาน และเก่งคนได้แล้ว ผู้บริหารต้องพัฒนาตนเองให้การเก่งคิด (Conceptual Skill) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผนสำหรับธุรกิจ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) และสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นของบุคคลในองค์กร หากนำทั้งสามเก่งรวมกันเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับธุรกิ

เจ้าสัว...สอนการเป็นนักบริหารชั้นเยี่ยม

เจ้าสัวบอกกับผมว่า "ปี 2557 นี้ เป็นอีก 1 ปีที่ท้าทายมากสำหรับการทำธุรกิจ เพราะสภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว และหนักที่สุดคือ ไตรมาสที่ 4 ที่มีบ้านเมืองเรามีปัญหาจากการเมือง และค่าดว่าปีนี้คงเป็นอีกปีที่สาหัสไม่น้อยกว่าปีก่อน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวโดยมีหัวหอกหลัก คือ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น" เจ้าสัวเสริมต่อว่า "การทำธุรกิจต้องรู้จักปรับตัวเองอยู่เสมอ รู้จักว่าวิเคราะห์ตลาดของตนเอง บริหารจัดการภายในองค์กรตนเอง รวมไปถึงรู้จักวิเคราะห์คู่แข่ง" "สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจ คือ ผู้บริหารองค์กรโดยเฉพาะผู้บริหารสูงสุด เพราะผู้บริหารสูงสุด คือคนที่มีอำนาจมากที่สุดจะเป็นกำหนดความเติบโตมั่งคั่งขององค์กร หรือนำความวิบัติมาสู่องค์กร" กรณีที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การที่ผู้บริหารองค์กรมีการตัดสินใจผิดครั้งใหญ่ เช่น ลงทุนโครงการขนาดใหญ่แล้วไม่เป็นไปตามคาดการณ์ไว้ นำไปสู่การขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง และการล้มละลายขององค์กรในที่สุด หรือ นำไปสู่การขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมหาศาลส่งผลให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงเป็นอย่างม