ระหว่างที่ผมขับรถกลับจากพบเจ้าสัว จิตผมคุ้นคิดเกี่ยวกับคำสอนของแกที่กล่าวก่อนแยกจากกันว่า
การเป็นนักบริหารชั้นเยี่ยมได้นั้นจะต้องเริ่มต้นจาก เก่งงาน (Technical Skill) คือ ทำงานในสายงานของตนเองให้ได้อย่างน้อย 10 ปี เพราะเป็นช่วงระยะเวลาที่ความรู้จะปรับเปลี่ยนไปสู่ความเข้าใจ โดยกระบวนการเปลี่ยนความรู้เป็นความเข้าใจได้นั้นต้องอาศัยการปฏิบัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อเก่งงานแล้ว ก็ต้องฝึกฝนตนเองในเรื่องการสร้างทีมงาน คือ การเก่งคน (Human Skill) เพราะการทำงานใหญ่ได้นั้นต้องอาศัยทีมงาน โดยทีมงานต้องมีจิตวิญญาณรวมกัน (Team Spirit) มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีความสามัคคีกัน มีความเห็นอกเห็นใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยบุคคลที่จะสร้าง Team Spirit ได้นั้นต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้น
เมื่อเก่งงาน และเก่งคนได้แล้ว ผู้บริหารต้องพัฒนาตนเองให้การเก่งคิด (Conceptual Skill) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผนสำหรับธุรกิจ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) และสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นของบุคคลในองค์กร
หากนำทั้งสามเก่งรวมกันเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับธุรกิจ คือ การเก่งงานอย่างเดียว เสมือนการเปิดร้านค้าเล็กๆ 1 แห่ง ซึ่งเจ้าของเป็นผู้บริหารเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด นับตั้งแต่ การสั่งสินค้าเข้ามาขายในร้านเอง การจัดสินค้าในร้านเอง การขายสินค้าและติดต่อลูกค้าเอง การเก็บเงินเข้าแบงก์เอง การทำบัญชีและภาษีเอง ดังนั้นเวลาทำงาน 100% เป็นเรื่องงานทั้งหมด
แต่หากเก่งงานและเก่งคนด้วย เสมือนการเปิดร้านขนาดกลาง ซึ่งเจ้าของเป็นผู้บริหาร และจ้างลูกจ้างมืออาชีพเข้ามาแบ่งความรับผิดชอบบางส่วนให้ โดยเจ้าของจะใช้เวลาในการบริหารลูกจ้างมืออาชีพ และดูแลงานเฉพาะส่วนที่มีความสำคัญกับธุรกิจเท่านั้น ดังนั้นเวลาทำงาน 100% แบ่งเป็นเรื่องงาน 50% และเรื่องคน 50%
แต่หากเก่งงาน เก่งคน และเก่งคิดด้วย เสมือนการเปิดร้านจำนวนหลายสาขาทั่วประเทศ (Chain Stores) ซึ่งเจ้าของกระจายงานเกือบทั้งหมดให้กับลูกจ้างมืออาชีพ และใช้เวลาส่วนใหญ่กับการมองภาพรวมของธุรกิจและอุตสาหกรรมของตนเอง ดังนั้นเวลาทำงาน 100% แบ่งเป็นเรื่องงาน 10% เรื่องคน 40% และเรื่องคิด 50%
กล่าวโดยสรุปได้ว่า นักบริหารชั้นเยี่ยมต้องพัฒนาตนเองจาก เก่งงาน เป็น เก่งคน และเก่งคิดในที่สุด เปรียบได้กับการสร้างกระท่อมสามารถสร้างคนเดียวได้ แต่ไม่สร้างเมืองต้องอาศัยคนและการวางแผนที่ดี การทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือ ทำธุรกิจขนาดใหญ่ เหนื่อยคนละแบบแต่เท่าๆกัน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
สายตาผมมองทอดยาวออกไปสุดปลายถนนท่ามกลางแสงสลัวของไฟถนน แต่จิตใจกับสว่างไสวเสมือนได้พบแสงสว่างทีปลายอุโมงค์
การเป็นนักบริหารชั้นเยี่ยมได้นั้นจะต้องเริ่มต้นจาก เก่งงาน (Technical Skill) คือ ทำงานในสายงานของตนเองให้ได้อย่างน้อย 10 ปี เพราะเป็นช่วงระยะเวลาที่ความรู้จะปรับเปลี่ยนไปสู่ความเข้าใจ โดยกระบวนการเปลี่ยนความรู้เป็นความเข้าใจได้นั้นต้องอาศัยการปฏิบัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อเก่งงานแล้ว ก็ต้องฝึกฝนตนเองในเรื่องการสร้างทีมงาน คือ การเก่งคน (Human Skill) เพราะการทำงานใหญ่ได้นั้นต้องอาศัยทีมงาน โดยทีมงานต้องมีจิตวิญญาณรวมกัน (Team Spirit) มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีความสามัคคีกัน มีความเห็นอกเห็นใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยบุคคลที่จะสร้าง Team Spirit ได้นั้นต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้น
เมื่อเก่งงาน และเก่งคนได้แล้ว ผู้บริหารต้องพัฒนาตนเองให้การเก่งคิด (Conceptual Skill) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผนสำหรับธุรกิจ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) และสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นของบุคคลในองค์กร
หากนำทั้งสามเก่งรวมกันเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับธุรกิจ คือ การเก่งงานอย่างเดียว เสมือนการเปิดร้านค้าเล็กๆ 1 แห่ง ซึ่งเจ้าของเป็นผู้บริหารเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด นับตั้งแต่ การสั่งสินค้าเข้ามาขายในร้านเอง การจัดสินค้าในร้านเอง การขายสินค้าและติดต่อลูกค้าเอง การเก็บเงินเข้าแบงก์เอง การทำบัญชีและภาษีเอง ดังนั้นเวลาทำงาน 100% เป็นเรื่องงานทั้งหมด
แต่หากเก่งงานและเก่งคนด้วย เสมือนการเปิดร้านขนาดกลาง ซึ่งเจ้าของเป็นผู้บริหาร และจ้างลูกจ้างมืออาชีพเข้ามาแบ่งความรับผิดชอบบางส่วนให้ โดยเจ้าของจะใช้เวลาในการบริหารลูกจ้างมืออาชีพ และดูแลงานเฉพาะส่วนที่มีความสำคัญกับธุรกิจเท่านั้น ดังนั้นเวลาทำงาน 100% แบ่งเป็นเรื่องงาน 50% และเรื่องคน 50%
แต่หากเก่งงาน เก่งคน และเก่งคิดด้วย เสมือนการเปิดร้านจำนวนหลายสาขาทั่วประเทศ (Chain Stores) ซึ่งเจ้าของกระจายงานเกือบทั้งหมดให้กับลูกจ้างมืออาชีพ และใช้เวลาส่วนใหญ่กับการมองภาพรวมของธุรกิจและอุตสาหกรรมของตนเอง ดังนั้นเวลาทำงาน 100% แบ่งเป็นเรื่องงาน 10% เรื่องคน 40% และเรื่องคิด 50%
กล่าวโดยสรุปได้ว่า นักบริหารชั้นเยี่ยมต้องพัฒนาตนเองจาก เก่งงาน เป็น เก่งคน และเก่งคิดในที่สุด เปรียบได้กับการสร้างกระท่อมสามารถสร้างคนเดียวได้ แต่ไม่สร้างเมืองต้องอาศัยคนและการวางแผนที่ดี การทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือ ทำธุรกิจขนาดใหญ่ เหนื่อยคนละแบบแต่เท่าๆกัน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
สายตาผมมองทอดยาวออกไปสุดปลายถนนท่ามกลางแสงสลัวของไฟถนน แต่จิตใจกับสว่างไสวเสมือนได้พบแสงสว่างทีปลายอุโมงค์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น