เมื่อธุรกิจมีมูลค่าแฟรนไชด์ ย่อมแปรเปลี่ยนไปเป็นมูลค่าหุ้นตามแฟรนไชด์ ทั้งนี้เพราะหุ้นเป็นของเจ้าของธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ดังสมการต่อไปนี้ ธุรกิจ = เจ้าหนี้ + เจ้าของธุรกิจ อาจเทียบเคียงได้กับสมการบัญชี คือ ธุรกิจ คือ สินทรัพย์ หนี้สิน คือ เจ้าหนี้ และ เจ้าของธุรกิจ คือ ส่วนของผู้ถือหุ้น ดังนั้นมูลค่าแฟรนไชด์ของธุรกิจ จะไปแสดงทั้งหมดในส่วนของของผู้ถือหุ้นและจะสะท้อนออกมาในมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (IVPS) และสุดท้ายจะไปปรากฎในราคาหุ้น (Market Price) เหตุที่มูลค่าแฟรนไชด์ของธุรกิจไม่ได้เป็นของเจ้าหนี้ เพราะเจ้าหนี้ได้รับค่าตอบแทนที่ชัดเจนแล้วในรูปแบบดอกเบี้ยจ่ายจึงไม่มีสิทธิใดๆทั้งสิ้นกับมูลค่าแฟรนไชด์ของธุรกิจ หากเข้าใจหลักการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ท่านจะรู้ทันทีว่าการกู้เงินมาทำธุรกิจที่มีแฟรนด์ไชด์จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก ท้้งนี้เพราะมูลค่าแฟรนไชด์ตกเป็นของผู้ถือหุ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว มูลค่าแฟรนไชด์ของธุรกิจ วัดได้จาก ROCE มูลค่าแฟรนไชด์ของหุ้น วัดได้จาก ROE
สอนหุ้นแบบปัจจัยพื้นฐาน และกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง รวมทั้งช่วงเวลาในการลงทุน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนพร้อมกับลดความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้น #Fundamental Analysis , Strategy of Risk Diversification , Right Timing , and Low Risk High Return#