ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจ้าสัว...ทำงานเพื่อค้นพบตัวเอง

สงกรานต์ปี 2556 ที่ผ่านมา เจ้าสัวได้เล่าระลึกถึงความหลังครั้งเมื่อสมัยเด็ก แกเล่าให้ฟังว่า แกเกิดมาในครอบครัวยากจนมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันทั้งหมด 4 คน แกเป็นพี่คนโตสุด มีน้องสาว 2 คน และน้องชายสุดท้องอีก 1 คน พ่อกับแม่เป็นคนจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เดินมาเมืองไทยด้วยสองมือเปล่า แต่เต็มไปด้วยจิตใจที่เป็นนักต่อสู้ ขยันแบบทะลุโลก อดทนทุ่มเทอย่างคนทั้งโลกต้องยอมรับ แต่ที่สำคัญที่สุดแม้ยากจนอย่างไรแต่ครอบครัวของแกก็รักกันมาก ซึ่งสามารถชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปไม่ว่าจะเป็นความลำบากกายในการยังชีพ และลำบากใจจากการทนต่อการดูถูกเหยียดยามจากสังคมรอบตัวในเวลานั้น 

นับตั้งแต่แกจำความได้ แกไม่เคยเห็นพ่อกับแม่หยุดทำงานเพื่อจะไปเที่ยวที่ไหน แกเห็นท่านทั้งสองทำงานอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นจนหลับ แกเคยถามพ่อว่าทำไมถึงต้องทำงานหนักขนาดนี้ พ่อหันมาตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงตรึงอยู่ในใจแกว่า  “ทำงานเพื่อให้ครอบครัวเรามีชีวิตที่ดีขึ้น และลูกๆได้มีอนาคตได้ทำตามความฝันของตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำงานเพื่อตัวเอง และสะสมนิสัยเหลื่านี้ให้ติดตัวไปอีกนานแสนนาน”

แกย้อนมาสอนผมว่า คนทำงานแทบทุกคนคิดว่าการไปทำงานเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ต้องการ เช่น เงินเดือน สวัสดิการ และอื่นๆ  ดังนั้นคนเหล่านี้จะคิดว่าทำไมต้องทำงานหนักเกินเงินเดือน ทำไปก็ไม่ได้อะไรดีขึ้น เพราะอย่างไรเสียก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่หากคิดให้ดีคนทำงานหนักนั้นประโยชน์ทั้งหมดตกเป็นของตนเองเป็นหลัก ส่วนองค์กรได้รับเพียงผลพลอยได้เท่านั้น

สายตาแกทอดยาวออกไป ผมถามแกต่อว่า ทำไมคนทำงานประโยชน์ทั้งหมดจึงตกเป็นของตนเอง แกตอบกลับทันควันเหมือนเคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เมื่อเราทำงานหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และทำอย่างต่อเนื่อง เราจะค้นพบตนเอง เราจะรู้ทักษะที่แท้จริงของตนเองว่าเราเป็นคนอย่างไร เหมาะสมกับงานประเภทใด เพราะทุกงานจะมีการตัดสินใจเรื่องงาน เรื่องคน และเรื่องคิด อยู่เสมอ

หากเราเก่งงาน งานที่เหมาะสม คือ งานด้านการปฏิบัติการ (Operation) เช่น งานด้านการผลิต งานด้านการตลาด งานด้านบุคคล เป็นต้น

หากเราเก่งคน งานที่เหมาะสม คือ งานด้านบริหารจัดการ (Management) เช่น งานด้านบริหารทีมงาน งานด้านบริหารการลงทุน งานด้านบริหารพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น

หากเราเก่งคิด งานที่เหมาะสม คือ งานด้านการวางแผน (Planning) เช่น งานด้านนโยบายองค์กร งานด้านวางแผนการผลิต งานด้านกลยุทธ์ทางการตลาด งานด้านการควบรวมกิจการ เป็นต้น

เมื่อเราเริ่มรู้จักตัวเองแล้ว คือทำเหตุให้ครบถ้วนแล้ว ความสำเร็จย่อมเป็นผลที่จะตามมาเอง

นอกจากนี้การทำงานหนักเป็นการเพาะนิสัยดีให้กับตนเอง ซึ่งจะติดตัวไปจนตายแถมยังข้ามภพข้ามชาติด้วย ลองคิดดูความรู้ประสบการณ์จากการทำงานจะติดตัวคนๆนั้นไป หากเมื่อไหร่ที่เขาลาออกจากงานสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกทิ้งไว้ในองค์กรเลย แต่กับติดตัวเขาไป องค์กรได้รับประโยชน์แค่ในยามที่เขายังอยู่กับองค์กรเท่านั้น
ฝนตกลงมาอย่างหนัก ตามมาด้วยลมกระโชกอย่างแรง จนต้นไม้โน้มเอียงไปตามลม ใบไม้ปลิวว่อน แต่แววตาของแกยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นยังเต็มเปี่ยม เหมือนคนหนุ่มเต็มไปด้วยฝัน….

หากท่านสนใจผลงานด้านหนังสือเข้าไปดูได้ที่

www.mebmarket.com



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...