ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การเดินทางสู่ความร่ำรวย...เป้าหมาย

เจ้าสัวเขียนจดหมายส่งมาให้กับผมโดยมีข้อความบางส่วนดังนี้

เรื่อง : เป้าหมาย

ทุกเช้าตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ผมคิดถึงแต่เรื่องความร่ำรวย เพราะมันช่วยทำให้ชีวิตมีแรงบันดาลใจ...ชีวิตกล้าเสี่ยงที่จะเดินออกจากความจำเจ...ชีวิตที่มีอะไรมากกว่าการกิน เดิน นั่ง นอน...ชีวิตที่เต็มไปด้วยความฝัน เหมือน เด็กชายฝันจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ เด็กหญิงฝันจะเป็นเจ้าหญิงแสนสวยรวยเสน่ห์มีแต่คนรักคนชอบ... (ความฝันไม่มีวันหมดอายุ)

ผมคิดเสมอว่า ความร่ำรวยเป็นเป้าหมายของชีวิต เพราะนักจิตวิทยาระดับโลกทุกคนบอกว่าชีวิตต้องมีเป้าหมาย เพราะเมื่อมีเป้าหมายแล้วจิตจะสามารถแสดงพลังแฝงที่อยู่ในตัวเราออกมาให้เห็นและวิ่งเข้าสู่เป้าหมายเองอย่างอัตโนมัติ เปรียบเสมือนจรวดนำวิธีที่พุ่งเข้าใส่เป้าที่กำหนดไว้

หากนำมาเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจพบว่าธุรกิจที่ดีต้องมีเป้าหมายชัดเจน หากเป็นไปได้ต้องกำหนดเป็นตัวเลขเพราะวัดผลได้ชัดเจน และมีระยะเวลากำหนดไว้ด้วยได้ยิ่งดี

ตัวอย่าง:-

1) ยอดขายเติบโตขึ้น 30% เทียบจากปีก่อน
2) อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ต้องเท่ากับ 50% ของยอดขาย
3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
4) กำไรสุทธิเติบโต 20% จากปีก่อน
5) ต้องมีอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (ROCE) เท่ากับ 15% ต่อปี
6) ต้องมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1 เท่า
5) ขยายสาขาใหม่ 15 แห่งทุกปี
6) ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี นับจากปีนี้
7) ต้องซื้อกิจการในต่างประเทศอย่างน้อย 1 แห่ง ทุกปี
8) จ่ายเงินปันผล 50% ของกำไรสุทธิ

เมื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนได้แล้ว จะทำให้เราไม่หลงทาง แต่หากหลงทางไปแล้วก็สามารถหาทางกลับมาได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเป้าหมายเป็นเสมือนเข็มทิศที่คอยนำทางให้กับเราอยู่เสมอ

มหาเศรษฐีทุกคนในโลกใบนี้มีเป้าหมายเสมอว่า...อยากร่ำรวยมีอาณาจักรของตนเอง
อัครศิลปินทุกคนในโลกใบนี้มีเป้าหมายเสมอว่า...อยากสร้างผลงานระดับตำนาน

แล้วคุณล่ะมีเป้าหมายหรือยัง ???

หลังจากอ่านจดหมายของเจ้าสัวแล้ว ผมนั่งหลับตาลงชั่วขณะ ทันใดนั้นเกิดคำถามผุดขึ้นมาจากความมืด เจ้าสัวรู้ได้อย่างไง "ตอนนี้ผมกำลังหลงทางอยู่..."

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...