วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว...เวลาเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...จากวินาทีเป็นนาที จากหลายนาทีเป็นชั่วโมง จากหลายชั่วโมงเป็นหนึ่งวัน....เป็นหนึ่งเดือน...เป็นหนึ่งปี...
หลวงพ่อเคยสอนว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อค้นหาทางที่จะไม่ต้องมาเกิดอีก แต่เมื่อเกิดมาแล้วก็หลงลืมเจตนาเดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขอมาเกิดอีก เพราะโลกนี้มีสิ่งยั่วยวนมากมายที่ทำให้คนนั้นหลงระเริงไป คอยชักจูงให้ออกไปไกลจากเป้าหมายเสมอ
หนทางที่จะไม่ต้องมาเกิดอีกมีทางสายเอกเพียงสายเดียวเท่านั้น คือ การรู้จักตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ การรู้จักตนเองนั้น เริ่มจากการมีสติขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วตามติดด้วยการรู้ลงไปในกายในใจของตนเอง จนพบว่าความจริงที่ว่า กายและใจไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่สามารถบังคับได้
เมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับกายกับใจอย่างเต็มที่แล้ว จิตจะพบกับทางที่ไม่ต้องมาเกิดอีกต่อไปด้วยตัวมันเอง
เสียงระฆังดังขึ้นเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาที่พระต้องฉันเพลแล้ว
ผมก้มลงกราบหลวงพ่อเสมือนว่าเราคงไม่ได้เจอะกันอีกแล้ว เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เสียงจากปลายสายถามว่า "อี บิท ดา" คืออะไร
ผมตอบกลับอย่างทันควันว่า อี บิท ดา (EBITDA) คือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย โดยมีสมการดังนี้
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
โดยปรกติค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายจะอยู่ในต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสดในรายการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
เราอาจจะอนุโลมได้ว่า EBITDA เท่ากับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
บางกิจการจะพบว่ากำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) ติดลบ แต่พบว่ากิจการกลับมีสภาพคล่อง ทั้งนี้เนื่องจากกิจการนั้นมีสินทรัพย์ถาวรเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีค่าเสื่อมและตัดจำหน่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
รายได้ 100 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 80 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 30 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน (10) ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน = รายได้ - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน = 100 - 80 -30 = -10 ล้านบาท
แต่หากไปดูในรายละเอียดพบว่า ต้นทุนขาย มีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท ดังนั้น ค่าเสื่อมราคารวม = 10 + 10 = 20 ล้านบาท
จากสมการ
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ดังนั้น EBITDA = 100 - 80 - 30 + 20 = 10 ล้านบาท
หมายถึงกิจการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานคงเหลือ 10 ล้านบาท ทัังที่กิจการขาดทุนจากการดำเนินงาน 10 ล้านบาท ดังนั้นกิจการจึงมีสภาพคล่อง
เสียงจากปลายสาย "ขอบคุณมากครับ"
ลมพัดกระโชกอย่างแรง...ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่ว...
หลวงพ่อเคยสอนว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อค้นหาทางที่จะไม่ต้องมาเกิดอีก แต่เมื่อเกิดมาแล้วก็หลงลืมเจตนาเดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขอมาเกิดอีก เพราะโลกนี้มีสิ่งยั่วยวนมากมายที่ทำให้คนนั้นหลงระเริงไป คอยชักจูงให้ออกไปไกลจากเป้าหมายเสมอ
หนทางที่จะไม่ต้องมาเกิดอีกมีทางสายเอกเพียงสายเดียวเท่านั้น คือ การรู้จักตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ การรู้จักตนเองนั้น เริ่มจากการมีสติขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วตามติดด้วยการรู้ลงไปในกายในใจของตนเอง จนพบว่าความจริงที่ว่า กายและใจไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่สามารถบังคับได้
เมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับกายกับใจอย่างเต็มที่แล้ว จิตจะพบกับทางที่ไม่ต้องมาเกิดอีกต่อไปด้วยตัวมันเอง
เสียงระฆังดังขึ้นเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาที่พระต้องฉันเพลแล้ว
ผมก้มลงกราบหลวงพ่อเสมือนว่าเราคงไม่ได้เจอะกันอีกแล้ว เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เสียงจากปลายสายถามว่า "อี บิท ดา" คืออะไร
ผมตอบกลับอย่างทันควันว่า อี บิท ดา (EBITDA) คือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย โดยมีสมการดังนี้
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
โดยปรกติค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายจะอยู่ในต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสดในรายการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
เราอาจจะอนุโลมได้ว่า EBITDA เท่ากับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
บางกิจการจะพบว่ากำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) ติดลบ แต่พบว่ากิจการกลับมีสภาพคล่อง ทั้งนี้เนื่องจากกิจการนั้นมีสินทรัพย์ถาวรเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีค่าเสื่อมและตัดจำหน่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
รายได้ 100 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 80 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 30 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน (10) ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน = รายได้ - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน = 100 - 80 -30 = -10 ล้านบาท
แต่หากไปดูในรายละเอียดพบว่า ต้นทุนขาย มีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท ดังนั้น ค่าเสื่อมราคารวม = 10 + 10 = 20 ล้านบาท
จากสมการ
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ดังนั้น EBITDA = 100 - 80 - 30 + 20 = 10 ล้านบาท
หมายถึงกิจการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานคงเหลือ 10 ล้านบาท ทัังที่กิจการขาดทุนจากการดำเนินงาน 10 ล้านบาท ดังนั้นกิจการจึงมีสภาพคล่อง
เสียงจากปลายสาย "ขอบคุณมากครับ"
ลมพัดกระโชกอย่างแรง...ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่ว...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น