ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทำธุรกิจส่วนตัว ใครว่ายาก…

จากการที่ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือหลากหลายประเภท โดยเฉพาะหนังสือที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ หนังสือที่มีเนื้อหาอ่านแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้ เพราะคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปในการอ่าน เนื่องจาก “เวลา คือ ชีวิต นั่นเอง” 

สำหรับหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจและสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนชีวิตจากลูกจ้างมาเป็นเจ้าของธุรกิจ คือ หนังสือ “ทำธุรกิจส่วนตัว ใครว่ายาก….” เป็นผลงานของ บริษัท เอฟ พี เอ็ม คอนซัลแท้นท์ จำกัด ซึ่งผู้เขียนเองเป็นเจ้าของบริษัทฯ และสามารถสร้างธุรกิจขึ้นมาจากสองมือเปล่า อีกทั้งเนื้อหาของหนังสือแทบทั้งหมดกลั่นกรองมาจากประสบการณ์ทำธุรกิจล้วนๆ มันจึงมีคุณค่าเป็นอย่างยิ่งที่ผมควรจะแบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้แก่สังคม

เนื้อเรื่องของหนังสือเป็นการถามและตอบ ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ โดยลูกศิษย์ตั้งใจจะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งการที่ลูกศิษย์ต้องการจะทำธุรกิจส่วนตัวจึงเกิดคำถามมากมาย ส่วนอาจารย์เองก็สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้อย่างตรงไปตรงมาตามหลักวิชาการ และอ้างอิงประสบการณ์ในการทำธุรกิจของตนเองที่ผ่านมาโชกโชน

อาจารย์สอน….วิธีค้นหาธุรกิจด้วยตนเอง…อุบายในการเอาชนะจิตใจที่หวาดกลัวว่าจะเจ๊งจากการทำธุรกิจ…หากเจ๊งแล้วได้อะไรกลับมาบ้าง งานนี้มีแต่ได้กับได้เท่านั้น ซึ่งนำไปสู่ “ทุนทางปัญญา” ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ 5 อย่างรวมกัน เมื่อเกิดทุนทางปัญญาแล้วความสำเร็จในการทำธุรกิจจะตามมาเอง
การจัดทำ Cash Flow แบบใครๆก็ทำได้เพื่อหาเงินลงทุนทั้งแบบเงินของเจ้าของและเงินจากการกู้ธนาคารโดยใช้กรณีศึกษาธุรกิจของลูกศิษย์…สอนการวิเคราะห์ Cash Flow และระยะเวลาการคืนทุน รวมทั้งการแนะนำการหุ้นส่วนธุรกิจและคุณสมบัติของหุ้นส่วนที่ดี

เรียนรู้จากปัญหาธุรกิจที่เกิดขึ้น เพื่อหาตลาดใหม่….สังคมเดิมหายไป สังคมใหม่เกิดขึ้น…เสกหุ้นจากเครื่องหมายการค้าด้วยวิธีตีมูลค่าเครื่องหมายการค้า…เสกเงินจากแผนธุรกิจที่มี Cash Flow …เสกหุ้นจากสิทธิบัตร

เพราะมีทุนทางปัญญา จึงกลายเป็นคนรวยในพริบตา แถมยังมีความสุขจากการทำธุรกิจ….






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...