ลูกศิษย์ : ผมได้อ่านบทวิจัยหุ้นของนักวิเคราะห์แล้วพบคำว่า EV / EBITDA มันหามาได้อย่างไรครับ
อาจารย์ : EV / EBITDA คือ มูลค่ากิจการ (EV) หารด้วย กำไรจากการดำเนินงานบวกกลับด้วยค่าเสื่อมและตัดจำหน่าย (EBITDA) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) มูลค่ากิจการ (EV) = หนี้สินที่มีดอกเบี้ย (VD) - เงินสด + ส่วนของผู้ถือหุ้น (VS)
โดยที่ หนี้สินที่มีดอกเบี้ย คือ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งที่เป็นหนี้ระยะสั้นและยาว
ส่วนของผู้ถือหุ้น คือ ราคาหุ้นในตลาด x จำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีงบดุลประจำปีล่าสุด แสดงรายการเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเท่ากับ 110 ล้านบาท และมีเงินสดเท่ากับ 10 ล้านบาท โดยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีราคาหุ้นเท่ากับ 20 บาท และมีหุ้นที่ชำระแล้ว 10 ล้านหุ้น
ดังนั้ัน มูลค่ากิจการ = 110 - 10 + (20 x 10) = 300 ล้านบาท
2) EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ปรกติค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายจะอยู่ในต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสดในรายการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
เราอาจจะอนุโลมได้ว่า EBITDA เท่ากับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีงบกำไรขาดทุนประจำปีล่าสุดดังนี้
รายได้ 300 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 240 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 30 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน 30 ล้านบาท
แต่หากไปดูในรายละเอียดพบว่า ต้นทุนขาย มีค่าเสื่อมราคาฯ = 20 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท ดังนั้น ค่าเสื่อมราคารวม = 20 + 10 = 30 ล้านบาท
จากสมการ
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ดังนั้น EBITDA = 300 - 240 - 30 + 30 = 60 ล้านบาท
ตามข้อ 1) และ 2) สามารถคำนวณหา EV / EBITDA ได้ดังนี้
EV / EBITDA = มูลค่ากิจการ / EBITDA = 300 / 60 = 5 เท่า
ลูกศิษย์ : กว่าจะได้ EV / EBITDA เท่ากับ 5 เท่า ยากน่าดูเลยนะครับ
อาจารย์ : ยากไม่ยากไม่รู้ แต่รู้มาว่านักวิเคราะห์แก่เกินวัย
ลูกศิษย์ : ไม่ต้องบอกก็รู้ดูอาจารย์เป็นตัวอย่าง (คิดในใจ)
อาจารย์ : EV / EBITDA คือ มูลค่ากิจการ (EV) หารด้วย กำไรจากการดำเนินงานบวกกลับด้วยค่าเสื่อมและตัดจำหน่าย (EBITDA) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) มูลค่ากิจการ (EV) = หนี้สินที่มีดอกเบี้ย (VD) - เงินสด + ส่วนของผู้ถือหุ้น (VS)
โดยที่ หนี้สินที่มีดอกเบี้ย คือ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งที่เป็นหนี้ระยะสั้นและยาว
ส่วนของผู้ถือหุ้น คือ ราคาหุ้นในตลาด x จำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีงบดุลประจำปีล่าสุด แสดงรายการเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเท่ากับ 110 ล้านบาท และมีเงินสดเท่ากับ 10 ล้านบาท โดยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีราคาหุ้นเท่ากับ 20 บาท และมีหุ้นที่ชำระแล้ว 10 ล้านหุ้น
ดังนั้ัน มูลค่ากิจการ = 110 - 10 + (20 x 10) = 300 ล้านบาท
2) EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ปรกติค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายจะอยู่ในต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสดในรายการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
เราอาจจะอนุโลมได้ว่า EBITDA เท่ากับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีงบกำไรขาดทุนประจำปีล่าสุดดังนี้
รายได้ 300 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 240 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 30 ล้านบาท
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน 30 ล้านบาท
แต่หากไปดูในรายละเอียดพบว่า ต้นทุนขาย มีค่าเสื่อมราคาฯ = 20 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีค่าเสื่อมราคาฯ = 10 ล้านบาท ดังนั้น ค่าเสื่อมราคารวม = 20 + 10 = 30 ล้านบาท
จากสมการ
EBITDA = ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย
ดังนั้น EBITDA = 300 - 240 - 30 + 30 = 60 ล้านบาท
ตามข้อ 1) และ 2) สามารถคำนวณหา EV / EBITDA ได้ดังนี้
EV / EBITDA = มูลค่ากิจการ / EBITDA = 300 / 60 = 5 เท่า
ลูกศิษย์ : กว่าจะได้ EV / EBITDA เท่ากับ 5 เท่า ยากน่าดูเลยนะครับ
อาจารย์ : ยากไม่ยากไม่รู้ แต่รู้มาว่านักวิเคราะห์แก่เกินวัย
ลูกศิษย์ : ไม่ต้องบอกก็รู้ดูอาจารย์เป็นตัวอย่าง (คิดในใจ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น