ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

P/E สูง ควรลงทุน ? ตอนที่ 3

ลูกศิษย์ : หุ้นฟื้นตัว (Turn Around Stocks) ที่อาจารย์เคยสอนผม มีเทคนิคการลงทุนอย่างไรบ้างครับ

อาจารย์ : ธรรมชาติของหุ้นฟื้นตัวจะเป็นไปวัฏจักรของเศรษฐกิจ เช่น เศรษฐกิจดีจะส่งผลให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในทางกลับกันเวลาเศรษฐกิจแย่จะส่งผลให้ผลประกอบการตกต่ำอย่างน่าใจหาย

ดังนั้น ราคาหุ้นฟื้นตัวจะสอดคล้องกับเศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะเศรษฐกิจดีจะทำให้มีความต้องการสินค้าหรือบริการเป็นอย่างมากจนส่งผลให้อุปสงค์ (Demand) มากกว่าอุปทาน (Supply) ทำให้ราคาสินค้าหรือบริการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผลประกอบการที่ดีจนมีกำไรสุทธิอย่างน่าประทับใจ ในขณะที่เศรษฐกิจแย่จะทำให้มีความต้องการสินค้าหรือบริการต่ำมากจนส่งผลให้อุปทาน (Supply) มากกว่าอุปสงค์ (Demand) ทำให้ราคาสินค้าหรือบริการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผลประกอบการย่ำแย่จนน่าตกใจ

เทคนิคในการลงทุน ก็คือ จงเริ่มทยอยซื้อ เมื่อ P/E สูงมากๆ และทยอยขาย เมื่อ P/E ต่ำมากๆ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นฟื้นตัวจะมีหลักการตรงกันข้ามกับหลักการลงทุนตามปรกติที่ให้ซื้อหุ้นเมื่อมี P/E ต่ำ และขายหุ้นเมื่อมี P/E สูง


ตัวอย่างเช่น ก่อนหุ้น A จะฟื้นตัวจะมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ต่ำมาก เช่น มี EPS เท่ากับ 0.1 บาท ขณะที่ราคาหุ้นเท่ากับ 10 บาท ดังนั้น P/E จะเท่ากับ 100 เท่า (10/0.1) ต่อมาเมื่อหุ้น A ฟื้นตัวได้แล้วจะมีกำไรสุทธิเพิ่มมาเป็น 3 บาท แต่ราคาหุ้นเท่ากับ 30 บาท ดังนั้น P/E จะเท่ากับ 10 เท่า (30/3) สาเหตุที่ราคาหุ้นยังไม่วิ่งมากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลว่าฟื้นตัวจริงหรือไม่ จึงเกิดอาการลังเลไม่กล้าซื้อแบบสุดตัว นั้นทำให้เกิดแรงซื้อยังไม่มากพอ ในขณะที่แรงขายกลับมากกว่า เพราะคนที่ติดหุ้นอยากจะออกเต็มที่ เนื่องจากอาจติดหุ้นมานานแล้วหลายปี จนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว งานนี้เป็นเกมส์วัดใจใครใจถึงกว่าคนนั้นจะเป็นผู้ชนะ


ดังนั้นหากเราใจถึงกว่าเราจะซื้อหุ้นตั้งแต่ P/E เท่ากับ 100 เท่า แล้ว และจะขายทั้งหมดที่ P/E เท่ากับ 10 เท่า ดังนั้นจะพบว่า เราจะได้กำไรส่วนต่างราคา (Capital Gain) เท่ากับ 200% มาจากสมการดังนี้


                                     Capital Gain = (30-10) x 100% / 10 = 200%


สมมติว่าเราถือหุ้นทั้งหมด 4 ปี ก็ตามจะพบว่าได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้น (Compounding Return) เท่ากับ 31.6% ต่อปี แต่หากทำบุญมากดี ถือหุ้นแค่ 3 ปี ก็จะได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้น (Compounding Return) เท่ากับ 44.4% ต่อปี มาจากสมการดังนี้



                            Compounding Return = ((30 / 10) ^ (1/3)) - 1 = 44.4% ต่อปี

 
ต้องบอกได้เลยได้ว่าใครสร้างอัตราผลตอบแทนระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ต้องบอกได้เลยว่ามหัศจรรย์จริงๆ
ลูกศิษย์ : อาจารย์รู้เทคนิคอย่างนี้ได้อย่างไรครับ


อาจารย์ : ไม่มีนักรบใดไร้บาดแผล เจ็บนี้อีกนาน…เจ็บนี้ไม่ลืม….


ลูกศิษย์คิดในใจ อาจารย์นี้โคตรเฉยเลยเพลงนี้มัน 20 กว่าปีมาแล้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...