ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจ้าสัว…การหาเงินขยายธุรกิจ

หลังจากดำเนินธุรกิจมาได้หลายปีแล้ว ผมได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากจากลูกค้าเดิม เพราะการทำธุรกิจที่มีแต่ความซื่อสัตย์ จริงใจ และเอาใจใส่ต่อลูกค้ามาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นปัญหาของธุรกิจในขณะนี้ก็คือ การตึงตัวของฐานะการเงิน

ผมจึงได้เข้าไปหารือกับเจ้าสัวซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทว่าจะดำเนินการอย่างไรกับสภาพคล่องของกิจการ เจ้าสัวจึงได้ให้ข้อเสนอแนะดังนี้

การหาเงินเข้าสู่กิจการคือ 1) การกู้ยืมเงินจากธนาคาร ซึ่งมีต้นทุนทางการเงินแก่กิจการ ก็คือดอกเบี้ยจ่าย 2) การเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น ซึ่งมีต้นทุนทางการเงินแก่กิจการ ก็คือเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น 3) การบริหารทรัพย์สินของกิจการ เช่น การเก็บหนี้ให้เร็วขึ้นโดยการให้ส่วนลด การขายสินค้าคงเหลือในราคาส่วนลด เป็นต้น ซึ่งกรณีนี้ไม่มีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

หากเปรียบเทียบต้นทุนทั้ง 3 แหล่งเรียงตามลำดับจากต้นทุนต่ำสุดไปหาสูงสุด ก็คือการขายสินค้าคงเหลือมีต้นทุนต่ำที่สุด หากสามารถขายได้ก็ยังเป็นลดต้นทุนการเก็บสินค้าคงเหลือ เนื่องจากประหยัดพื้นที่และการดูแลรักษา รวมทั้งได้ตรวจสอบสินค้าคงเหลือในเวลาเดียวกันว่าตรงกับการบันทึกบัญชีหรือไม่
ส่วนการกู้ยืมเงินจากธนาคารยังคงมีประโยชน์ในแง่ของการนำดอกเบี้ยจ่ายมาประหยัดภาษี และหากสามารถจ่ายคืนหนี้ได้ตามกำหนดจะเป็นการสร้างเครดิตให้แก่ผู้บริหารและกิจการ ซึ่งนำไปสู่การได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงในอนาคต

สุดท้ายการขายหุ้นเพิ่มทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหุ้นเพิ่มทุนจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมเสียสัดส่วนการถือครองหุ้นด้วย หากผู้ถือหุ้นเดิมตัดสินใจไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน

ตัวอย่างเช่น นาย ก ถึงครองหุ้น 50 ล้านหุ้น นาย ข ถึอครองหุ้น 50 ล้านหุ้น พบว่านาย กและข ถือหุ้นฝ่ายละ 50% (50 x 100% / 100) ต่อมามีการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 100 หุ้น ให้แก่นาย กและข โดยนาย ก ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนคือ 50 ล้านหุ้น แต่นาย ข ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน จึงส่งผลให้นาย ก มีหุ้นทั้งหมดเป็น 100 ล้านหุ้น ส่วนนาย ข มีหุ้นเท่าเดิมคือ 50 ล้านหุ้น สิ่งที่ตามมาคือ นาย ก มีสัดส่วนการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 66.66% (100 x 100% / 150) ส่วนนาย ข มีสัดส่วนการถือครองหุ้นลดลงจาก 50% เหลือ 33.33% (50 x 100% / 150)

นอกจากนี้ในอนาคต หากกิจการมีการจ่ายเงินปันผลจะส่งผลให้นาย ก ได้รับเงินปันผลมากกว่า นาย ข เพราะสัดส่วนการถือครองหุ้นนาย ก มากกว่า นายข และนาย ก ก็ยังมีอำนาจในการควบคุมกิจการมากกว่านาย ข อีกด้วย

เจ้าสัวถามผมต่อว่าอยากจะขายหุ้นเพิ่มทุนหรือเปล่าล่ะ แกพร้อมที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเสมอ ผมนึกในใจว่าผมไม่มีกำลังจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน ดังนั้นการตกลงธุรกิจครั้งนี้ผมมีแต่เสียเปรียบ ผมคงต้องกลับไปดูว่าสินค้าคงเหลือของบริษัทก่อนตัดสินใจอะไรลงไป…



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...