หลังจากผมร่วมลงทุนธุรกิจกับเจ้าสัวมากว่าครึ่งปี แกได้มอบหมายให้ผมเป็น กรรมการผู้จัดการ (Managing Director) และมอบหมายให้คนของแกมาเป็นรองกรรมการผู้จัดการดูแลเรื่องการเงินและบัญชีและเซ็นเอกสารสำคัญบริษัทคู่กับผม
ผมจึงบอกกับแกว่า ต้องการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เพื่อจะมาแบ่งเบาภาระงานของผม ซึ่งต้องดูแลเรื่องผลิต การตลาด และบุคคล
แกถามกลับว่าผมทำงานอาทิตย์ละกี่วัน ผมตอบกลับ 5 วันต่ออาทิตย์ โดยมาทำงานตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. และหยุดตามวันหยุดของบริษัทซึ่งจะตรงตามวันหยุดในปฏิทิน
แกบอกผมว่าเท่าที่ได้ข้อมูลจากผม แกไม่เห็นด้วยการหาผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เนื่องจากผมยังสามารถทำงานได้อยู่ โดยอ้างอิงจาก ผมควรทำงานอย่างน้อย 6 วันต่ออาทิตย์ และควรยืดเวลาทำงานแต่ละวันโดยให้เลิกทำงาน 4 ทุ่ม ดังนั้นจะเห็นว่ามีเวลาทำงานเพิ่มขึ้นถึงอย่างน้อย 80%
แกอธิบายต่อว่า เวลาทำงานของผมต่อเดือนเท่ากับ 160 ชั่วโมง (5 วัน x 8 ชั่วโมง x 4 อาทิตย์) หากผมทำงานตามที่แกบอกเวลาจะเพิ่มขึ้นเป็น 128 ชั่วโมง (5 วัน x 4 ชั่วโมง (ตั้งแต่ 6 โมงถึง 4 ทุ่ม) x 4 อาทิตย์) + (4 วัน x 12 ชั่วโมง (ทำงานทุกวันเสาร์ตั้งแต่ 8.00 - 22.00 น. หักให้กินข้าว 2 ชั่วโมงแล้ว) จะเห็นว่าเวลาทำงานเพิ่มขึ้นจาก 160 ชั่วโมง เป็น 288 ชั่วโมง หรือ เพิ่มขึ้น 128 ชั่วโมง คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 80% (128x100%/160) หรือคิดเป็นวันเท่ากับ 16 วันต่อเดือน หรือ 192 วันต่อปี (16 x 12)
แกเสริมต่อว่า เวลาที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยผมทำงานได้มากขึ้น และที่สำคัญผมจะเก่งขึ้นอย่างมากในอนาคต ในขณะที่จ้างผู้ช่วยทำให้ผมสบายขึ้น แต่จะทำให้ผมร่ำรวยช้าลง เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ที่สำคัญกว่านั้นมันทำให้ผมมีประสบการณ์การทำงานลดลง
แกเล่าให้ฟังว่า แกทำงานหนักกว่าที่แนะนำผม เพราะแกทำงานไม่เคยมีวันหยุดเลย แม้แต่เวลาป่วยก็ยังทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะงานมันทำให้ยารักษาโรคของทุกอย่าง รักษาทั้งโรคทรัพย์จาง รักษาทั้งโรคทางกาย รักษาทั้งโรคทางใจ
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับแก และมองเห็นแววตาของแก มันทำให้ผมเข้าใจยิ่งขึ้นว่า ความร่ำรวยที่แกมีอยู่มันมาจากการทำงานหนักมายาวนานกว่า 50 ปี แต่แววตาของแกนั้นยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นราวกับเด็กที่เพิ่งกำลังเกิดและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกใบนี้
ผมจึงบอกกับแกว่า ต้องการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เพื่อจะมาแบ่งเบาภาระงานของผม ซึ่งต้องดูแลเรื่องผลิต การตลาด และบุคคล
แกถามกลับว่าผมทำงานอาทิตย์ละกี่วัน ผมตอบกลับ 5 วันต่ออาทิตย์ โดยมาทำงานตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. และหยุดตามวันหยุดของบริษัทซึ่งจะตรงตามวันหยุดในปฏิทิน
แกบอกผมว่าเท่าที่ได้ข้อมูลจากผม แกไม่เห็นด้วยการหาผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เนื่องจากผมยังสามารถทำงานได้อยู่ โดยอ้างอิงจาก ผมควรทำงานอย่างน้อย 6 วันต่ออาทิตย์ และควรยืดเวลาทำงานแต่ละวันโดยให้เลิกทำงาน 4 ทุ่ม ดังนั้นจะเห็นว่ามีเวลาทำงานเพิ่มขึ้นถึงอย่างน้อย 80%
แกอธิบายต่อว่า เวลาทำงานของผมต่อเดือนเท่ากับ 160 ชั่วโมง (5 วัน x 8 ชั่วโมง x 4 อาทิตย์) หากผมทำงานตามที่แกบอกเวลาจะเพิ่มขึ้นเป็น 128 ชั่วโมง (5 วัน x 4 ชั่วโมง (ตั้งแต่ 6 โมงถึง 4 ทุ่ม) x 4 อาทิตย์) + (4 วัน x 12 ชั่วโมง (ทำงานทุกวันเสาร์ตั้งแต่ 8.00 - 22.00 น. หักให้กินข้าว 2 ชั่วโมงแล้ว) จะเห็นว่าเวลาทำงานเพิ่มขึ้นจาก 160 ชั่วโมง เป็น 288 ชั่วโมง หรือ เพิ่มขึ้น 128 ชั่วโมง คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 80% (128x100%/160) หรือคิดเป็นวันเท่ากับ 16 วันต่อเดือน หรือ 192 วันต่อปี (16 x 12)
แกเสริมต่อว่า เวลาที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยผมทำงานได้มากขึ้น และที่สำคัญผมจะเก่งขึ้นอย่างมากในอนาคต ในขณะที่จ้างผู้ช่วยทำให้ผมสบายขึ้น แต่จะทำให้ผมร่ำรวยช้าลง เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ที่สำคัญกว่านั้นมันทำให้ผมมีประสบการณ์การทำงานลดลง
แกเล่าให้ฟังว่า แกทำงานหนักกว่าที่แนะนำผม เพราะแกทำงานไม่เคยมีวันหยุดเลย แม้แต่เวลาป่วยก็ยังทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะงานมันทำให้ยารักษาโรคของทุกอย่าง รักษาทั้งโรคทรัพย์จาง รักษาทั้งโรคทางกาย รักษาทั้งโรคทางใจ
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับแก และมองเห็นแววตาของแก มันทำให้ผมเข้าใจยิ่งขึ้นว่า ความร่ำรวยที่แกมีอยู่มันมาจากการทำงานหนักมายาวนานกว่า 50 ปี แต่แววตาของแกนั้นยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นราวกับเด็กที่เพิ่งกำลังเกิดและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกใบนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น