เหตุการณ์ในยุควิกฤติต้มยำกุ้งที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงเวลานั้นที่่บริษัทส่วนใหญ่ประสบกับปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งนี้เพราะกู้เป็นเงินสกุล US$ ในขณะที่อัตราเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ลอยตัวจาก 25 บาท/US$ ไปสูงเกินกว่าเท่าตัว อีกทั้งถูกกระหนำซ้ำเติมด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ ส่งผลให้เกิดวิกฤตทางการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัทฯส่วนใหญ่รวมถึงสถาบันการเงินได้พังพินาศไปตามๆกัน
บริษัทฯที่ประคองตัวอยู่ได้ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก เพราะรายได้เพิ่มขึ้นไปพร้อมกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัว อย่างไรก็ตามยังคงประสบปัญหาหนี้รุมเร้าอยู่เหมือนเดิม เพราะทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินบาท แต่ในขณะที่หนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันไม่คุ้มกับมูลหนี้แล้ว เจ้าหนี้จึงบังคับหนี้คืนทันทีเพราะส่วนใหญ่ดันกู้เป็นหนี้ระยะสั้นที่เรียกคืนได้ตามเจ้าหนี้ต้องการ ส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
ขณะนั้นทรัพย์สินแทบทุกอย่างในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่ดินจนถึงหุ้นมีราคาถูกแสนถูกราวชั่งกิโลขาย กองทุนต่างชาติในซีกโลกตะวันตกใช้กลยุทธ์ WAIT & SEE เพื่อรอคอยเวลาในการเข้ามาแย่งชิงของดีราคาถูกมากๆ ที่วางเกลื่อนในตลาดราวของที่หลุดจากห้างไฮโซมาแบขายข้างถนน
ทั้งหมดนี้มันเป็นการล่าอาณานิยมยุคโลกาภิวัฒน์ที่แนบเนียนกว่าครั้งไหนๆในประวัติศาสตร์ ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องถูกประณามว่าไม่มีมนุษยธรรม ทั้งหมดนี้โทษได้เพียงว่าพวกเราคงไร้เดียงสากันเอง (Too Naive) เพราะดันอยากได้เงินกู้ราคาถูก แต่สุดท้ายก็จ่ายคืนให้ในราคาแพงมหาโหด
บทเรียนครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับคน Generation แรก และหวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ต้องอ่านซ้ำๆ อีกหลายครั้งสำหรับคน Generation ต่อๆไป
วิกฤติรอเวลาเกิดขึ้นเสมอเพียงแต่ขณะนี้ค่อยๆสะสมรอเวลาที่จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นจงพยายามดำเนินชีวิตทุกขณะอย่างมีสติและมีเหตุผลเสมอ
บริษัทฯที่ประคองตัวอยู่ได้ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก เพราะรายได้เพิ่มขึ้นไปพร้อมกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัว อย่างไรก็ตามยังคงประสบปัญหาหนี้รุมเร้าอยู่เหมือนเดิม เพราะทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินบาท แต่ในขณะที่หนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันไม่คุ้มกับมูลหนี้แล้ว เจ้าหนี้จึงบังคับหนี้คืนทันทีเพราะส่วนใหญ่ดันกู้เป็นหนี้ระยะสั้นที่เรียกคืนได้ตามเจ้าหนี้ต้องการ ส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
ขณะนั้นทรัพย์สินแทบทุกอย่างในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่ดินจนถึงหุ้นมีราคาถูกแสนถูกราวชั่งกิโลขาย กองทุนต่างชาติในซีกโลกตะวันตกใช้กลยุทธ์ WAIT & SEE เพื่อรอคอยเวลาในการเข้ามาแย่งชิงของดีราคาถูกมากๆ ที่วางเกลื่อนในตลาดราวของที่หลุดจากห้างไฮโซมาแบขายข้างถนน
ทั้งหมดนี้มันเป็นการล่าอาณานิยมยุคโลกาภิวัฒน์ที่แนบเนียนกว่าครั้งไหนๆในประวัติศาสตร์ ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องถูกประณามว่าไม่มีมนุษยธรรม ทั้งหมดนี้โทษได้เพียงว่าพวกเราคงไร้เดียงสากันเอง (Too Naive) เพราะดันอยากได้เงินกู้ราคาถูก แต่สุดท้ายก็จ่ายคืนให้ในราคาแพงมหาโหด
บทเรียนครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับคน Generation แรก และหวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ต้องอ่านซ้ำๆ อีกหลายครั้งสำหรับคน Generation ต่อๆไป
วิกฤติรอเวลาเกิดขึ้นเสมอเพียงแต่ขณะนี้ค่อยๆสะสมรอเวลาที่จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นจงพยายามดำเนินชีวิตทุกขณะอย่างมีสติและมีเหตุผลเสมอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น