ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ข้อมูลสำหรับทำธุรกิจ

ถาม :  ผมอยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่ทราบว่าจะทำธุรกิจอะไรดี จะขออาจารย์ช่วยแนะนำให้ครับ

ตอบ : ให้หาข้อมูลจากเว็บไซด์ตลาดหลักทรัพย์ : www.set.or.th ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนเป็นจำนวนมาก และคิดว่าแทบจะครอบคลุมธุรกิจเกือบทุกประเภท โดยข้อมูลสำคัญประกอบด้วย ผลการดำเนินงาน หาดูได้จาก รายงานประจำปี (Annual Report) และพื้นฐานธุรกิจ หาดูได้จาก แบบฟอร์ม 56-1

ตัวอย่างรายละเอียดอย่างย่อของรายงานประจำปี

1) ข้อมูลทั่วไป  ประกอบด้วยสถานที่ตั้งและที่ติดต่อของบริษัทมหาชนและกลุ่มบริษัทในเครือ 

2) ข้อมูลคณะกรรมการบริษัท

3) สารจากประธาน แสดงถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและการกำหนดทิศทางของธุรกิจในอนาคต

4) ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินเปรียบเทียบย้อนหลัง ซึ่งประกอบด้วยงบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด และอัตราส่วนทางการเงิน

5) ลักษณะของธุรกิจ ทำให้ทราบว่าบริษัทดำเนินธุรกิจประเภทใด มีฐานการผลิตและการจัดจำหน่ายที่ใด และมีปัจจัยเสี่ยงใดบ้าง รวมทั้งนโยบายการบริหารความเสี่ยง

6) โครงสร้างการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ

7) โครงสร้างรายได้ของกลุ่มบริษัทฯ

8) รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่

9) โครงสร้างการบริหารงาน (Organization Chart)
  
ตัวอย่างรายละเอียดอย่างย่อของแบบฟอร์ม 56-1

ส่วนที่ 1 : ข้อมูลสรุปของบริษัท ซึ่งแสดงถึงประวัติความเป็นมาของบริษัทตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงปัจจุบัน ทุน  จดทะเบียน สัดส่วนของรายได้แบ่งตามภูมิศาสตร์ และกลุ่มลูกค้า ประเภทของการดำเนินธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจต่อตลาด ธุรกิจของบริษัทย่อย และผลการดำเนินงานโดยย่อ

ส่วนที่ 2 : พื้นฐานทางธุรกิจของบริษัท โดยมีรายละเอียดแบ่งตามหัวข้อดังต่อไปนี้
 ปัจจัยความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจ โดยจำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือปัจจัยภายนอก อันได้แก่ ภาวะสงคราม ภาวะเศรษฐกิจ และภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม เป็นต้น ปัจจัยภายใน อันได้แก่ ความผันผวนของวัตถุดิบทางตรงในการผลิต ความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อกับลูกหนี้การค้า และความเสี่ยงด้านสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

 ลักษณะของธุรกิจ จะแสดงความเป็นมาของธุรกิจอย่างละเอียดนับตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงปัจจุบัน การขายหุ้นเพิ่มทุนและการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ โครงสร้างการลงทุนและสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทย่อย   และบริษัทร่วมที่สำคัญ  โครงสร้างรายได้ของบริษัทหลักและบริษัทย่อย เป้าหมายการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาองค์กร

 ประเภทของสินค้าและบริการ จะแสดงสัดส่วนของรายได้ในแต่ละกลุ่มสินค้าและบริการ รวมทั้งสิทธิพิเศษ  ทางภาษีอันเกิดจากการลงทุน เช่น การได้รับการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น  ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าวจะมีรายละเอียดประกอบอย่างชัดเจน  และสิทธิพิเศษอื่นอันเกิดจากการเป็นผู้ประกอบการที่ดี เช่น การได้รับบัตรทองจากกรมศุลกากร จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าเนื่องจากลดระยะเวลาการตรวจสินค้า

 กลยุทธ์การตลาดและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะแสดงข้อมูลการขายผ่านช่องทางจัดจำหน่าย และนโยบายการตั้งราคา รวมทั้งภาวะอุตสาหกรรมจากข้อมูลตลาดรวม ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การส่งเสริมของภาครัฐ และสภาวะการณ์ในอุตสาหกรรมจากข้อมูลการแข่งขันในอุตสาหกรรม ความสามารถในการต่อรองระหว่างบริษัทกับลูกค้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระบวนการลงทุนแนว VI

ควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดี

ถาม : ดิฉันกำลังคิดจะทำธุรกิจ อยากทราบว่าควรมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเท่าไหร่ดีค่ะ ตอบ : คุณต้องประมาณเงินลงทุนทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ (1) ประมาณการเงินลงทุนสินทรัพย์ถาวร (2) ประมาณการเงินหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital)  หลังจากนั้นคุณก็นำรายการที่ (1) บวกกับรายการที่ (2) แล้ว ผลรวมที่ได้คือ เงินลงทุนทั้งหมด ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกู้เงิน เงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นทุนที่ชำระแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ว่า ผู้ถือหุ้นต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท คุณต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 250,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 75% ถือว่าเป็นภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท ดังนั้นในกรณีที่บริษัทดำเนินธุรกิจจนเจ๊ง เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิบังคับให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นคงเหลืออีก 75% ซึ่งหมายความว่า หุ้นที่ชำระไม่ครบ 75% มีสถานะเป็นหนี้ของผู้ถือหุ้นนั่นเอง ตัวอย่าง การประมาณงินลงทุน เช่น บริษัท ABCD จำกัด มีสมมติฐานว่าปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท ต้นทุนขายประมาณ 7.5 ล้านบาท และงบประมาณการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร...

ช่วงเวลาในการซื้อขายหุ้น (Investment Timing)

ราคาหุ้นในตลาดหุ้น (Market Price) ถูกกำหนดมาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจัยภายนอก (External Factor) คือ ปัจจัยที่ไม่ได้มาจากกิจการโดยตรงซึ่งเป็นปัจจัยที่กิจการไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กระแสเงินเงินทุนไหลออกและไหลเข้า (Fund Flow) วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การปรับลดค่าเงินหยวน สงครามระหว่างประเทศและการก่อการร้ายในกลุ่มประเทศยุโรป จนถึง ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรุนแรง การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคาร การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ปัจจัยภายใน (Internal Factor) คือ ปัจจัยที่มาจากกิจการโดยตรง เช่น การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุน การควบรวมกิจการ การซื้อและขายกิจการ การเพิ่มอัตราการก่อหนี้ในกิจการ การปิดบริษัทย่อย...

ต้นทุนเงินทุน (WACC)

ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) หรือ ที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป คือ WACC (Weighted Average Cost of Capital) หมายถึง ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของเงินทุน  มีประโยชน์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในโครงการใดบ้างของบริษัท เช่น คุ้มค่าหรือไม่ที่จะลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัท เป็นต้น อีกทั้ง WACC นี้ยังสามารถใช้ในการคำนวณหามูลค่าของกิจการ (Enterprise Value) และมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value of Stock) ได้อีกด้วย WACC ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ประเภท คือ :- ประเภทที่ 1 ต้นทุนจากการเงินกู้ยืม หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (kd)   ประเภทที่ 2 ต้นทุนจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น  หรือ ที่เข้าใจโดยทั่วไป คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ke) เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ WACC ขอยกตัวอย่างประกอบดังนี้ บริษัท A มีเงินทุนประกอบด้วย เงินกู้จากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ย 100 ล้านบาท และเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท ดังนั้นเงินทุนทั้งหมดของกิจการ A คือ เงินกู้จากเจ้าหนี้ฯ + เงินทุนจากผู้ถือหุ้น = 100 + 100 ล้านบาท เท่ากับ 200 ล...

ควรตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่

ถาม : ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว และต้องการตั้งเป้าหมายการขายให้กับฝ่ายขาย อาจารย์พอจะมีวิธีที่ใช้ประมาณการขายหรือเปล่าครับ ตอบ : การตั้งเป้าหมายในการขายให้กับฝ่ายขาย เราสามารถคำนวณหาได้จากจุดคุ้มทุนขาย (Break-Even point of Sales) คือ ยอดขายที่ทำไม่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ หรือ ยอดขายที่พอดีกับค่าใช้จ่ายของกิจการ หรืออีกนัยหนึ่ง คือยอดขายขั้นต่ำที่ต้องให้กับฝ่ายขาย โดยมีสูตรดังนี้                                              จุดคุ้มทุนขาย  =   ค่าใช้จ่ายคงที่                                                  ...