บทความก่อนหน้านี้ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความกลัวและความโลภในตลาดหุ้นซึ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในตลาดหุ้นไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม เพราะตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ก็เผชิญกับเหตุการณ์เหล่านี้เช่นกัน เนื่องจากความกลัวและความโลภมีทุกหนทุกแห่งไม่ได้ยืนยันว่าคนที่มีความรู้มากกว่าจะควบคุมรู้สึกได้ดีกว่าคนที่มีความรู้น้อยด้อยกว่า
ดังนั้นการเอาชนะตลาดหุ้นได้ในระยะยาวนั้นจึงเป็นเรื่องของสภาพจิตใจมากกว่าเรื่องความรู้ในการลงทุน กล่าวโดยย่อคือ ตลาดหุ้นชนะกันด้วย EQ มากกว่า IQ อย่างไรก็ตามก่อนลงทุน ผู้ลงทุนต้องมีความรู้พื้นฐานในการลงทุนก่อน เพื่อจะได้เข้าใจว่ากระบวนขึ้นลงของหุ้นว่ามาจากสาเหตุใด เพื่อจะนำไปใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป
ความรู้พื้นฐานในการลงทุนหุ้น คือ การเข้าใจธุรกิจ การเข้าใจงบการเงิน และสามารถวิเคราะห์งบการเงินได้ด้วยตนเอง เพราะ ราคาหุ้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประกอบการของหุ้นตัวนั้น หากกิจการของหุ้นตัวนั้นมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share : EPS) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย่อมส่งผลให้ราคาของหุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นด้วยในทิศทางเดียวกัน ในทางกลับกัน หากกิจการของหุ้นตัวนั้นมีกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงต่อเนื่อง ย่อมส่งผลให้ราคาของหุ้นตัวนั้นลดลงด้วยในทิศทางเดียวกัน
ท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองว่าจริงหรือไม่ ให้เข้าไปดูที่ www.set.or.th ซึ่งมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)เปรียบเทียบกับราคาหุ้น โดยให้ดูย้อนหลังไปหลายปีเพื่อจะได้เห็นภาพได้ชัดเจน
ก่ล่าวโดยสรุปได้ว่า การเข้าใจธุรกิจ และงบการเงินสามารถทำให้ท่านมีเหตุมีผลยืนอยู่เหนือความกลัวและความโลภในตลาดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้โอกาสในการชนะการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก รางวัลของการชนะความกลัวและความโลภ คือ เงินก้อนโตที่กำลังรออยู่ข้างหน้า
ดังนั้นการเอาชนะตลาดหุ้นได้ในระยะยาวนั้นจึงเป็นเรื่องของสภาพจิตใจมากกว่าเรื่องความรู้ในการลงทุน กล่าวโดยย่อคือ ตลาดหุ้นชนะกันด้วย EQ มากกว่า IQ อย่างไรก็ตามก่อนลงทุน ผู้ลงทุนต้องมีความรู้พื้นฐานในการลงทุนก่อน เพื่อจะได้เข้าใจว่ากระบวนขึ้นลงของหุ้นว่ามาจากสาเหตุใด เพื่อจะนำไปใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป
ความรู้พื้นฐานในการลงทุนหุ้น คือ การเข้าใจธุรกิจ การเข้าใจงบการเงิน และสามารถวิเคราะห์งบการเงินได้ด้วยตนเอง เพราะ ราคาหุ้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประกอบการของหุ้นตัวนั้น หากกิจการของหุ้นตัวนั้นมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share : EPS) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย่อมส่งผลให้ราคาของหุ้นตัวนั้นปรับตัวขึ้นด้วยในทิศทางเดียวกัน ในทางกลับกัน หากกิจการของหุ้นตัวนั้นมีกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงต่อเนื่อง ย่อมส่งผลให้ราคาของหุ้นตัวนั้นลดลงด้วยในทิศทางเดียวกัน
ท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองว่าจริงหรือไม่ ให้เข้าไปดูที่ www.set.or.th ซึ่งมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)เปรียบเทียบกับราคาหุ้น โดยให้ดูย้อนหลังไปหลายปีเพื่อจะได้เห็นภาพได้ชัดเจน
ก่ล่าวโดยสรุปได้ว่า การเข้าใจธุรกิจ และงบการเงินสามารถทำให้ท่านมีเหตุมีผลยืนอยู่เหนือความกลัวและความโลภในตลาดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้โอกาสในการชนะการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก รางวัลของการชนะความกลัวและความโลภ คือ เงินก้อนโตที่กำลังรออยู่ข้างหน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น